หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีหน้าเว็บไซต์ คุณก็คงปรารถนาให้มีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) ของคุณจำนวนมาก ๆ และคุณคงต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับกลยุทธ์ SEO อย่างแน่นอน SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดดิจิทัลรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีเป้าหมายเพื่อทำให้เว็บไซต์อยู่ในอันดับที่สูงกว่าเว็บไซต์อื่น ๆ ในหน้าผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา (Search Engine) ต่าง ๆ เช่น Google, Yahoo, Bing เป็นต้น ทำให้ผู้ใช้งานหรือลูกค้ามีโอกาสเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น และทำให้คุณมีโอกาสขายสินค้าและบริการได้มากขึ้นผ่านกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพและจัดโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณในลักษณะที่ตรงกับอัลกอริทึม (Algorithm) ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์หรือสูตรต่าง ๆ ที่ใช้กำหนดค่าความสำคัญให้กับเว็บไซต์และนำไปแสดงผลบนผลลัพธ์การค้นหาของเครื่องมือค้นหา ซึ่งการทำ SEO ที่ดีและได้ผลนั้น เว็บไซต์ที่ทำ SEO ควรที่จะอยู่หน้าแรกแต่ไม่เกินหน้าที่ 2 ซึ่งจะได้รับการเข้าเยี่ยมชมบ่อยครั้งมากที่สุด ยิ่งอันดับสูงเท่าไร อัตราการคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ก็สูงขึ้นเท่านั้น
กลยุทธ์ทำ SEO ที่ช่วยพัฒนาเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทำ SEO เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยเวลาและมุ่งเป้าหมายในระยะยาวเพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนที่สุด การวางแผนกลยุทธ์ SEO จึงเป็นเรื่องที่ต้องกระทำอย่างรอบคอบ มีระบบ และเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อมุ่งไปสู่ผลลัพธ์ในท้ายที่สุด และนี่คือกลยุทธ์การทำ SEO ที่ช่วยพัฒนาเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้ลูกค้ารู้จักธุรกิจของคุณก่อน
แน่นอนว่าผู้ใช้ที่ค้นหาข้อมูลผ่านเสิร์ชเอนจิ้นต่าง ๆ นั้นไม่ได้รู้จักธุรกิจหรือบริการของคุณอยู่ตั้งแต่แรก แต่เป็นการค้นหาในสิ่งที่สงสัยแบบสุ่มเพื่อมองหาคำตอบที่ดีที่สุดและตรงตามความต้องการมากที่สุด เช่น หากผู้ใช้กำลังมองหาโรงแรมบนเกาะสมุย ก็อาจจะค้นหาด้วยคำว่า “โรงแรมบนเกาะสมุย” หรือ “ที่พักเกาะสมุย” จากนั้นเสิร์ชเอนจิ้นก็จะแสดงผลลัพธ์การค้นหาที่ตรงกับคำค้น (Keyword) ที่ผู้ใช้ป้อน ซึ่งอาจเป็นเว็บไซต์ของโรงแรมหรือที่พักต่าง ๆ บนเกาะสมุย รวมถึงรีวิวหรือบทความแนะนำที่พัก
ออกแบบเว็บไซต์ให้น่าดึงดูดและสร้าเนื้อหาที่น่าสนใจ
กลยุทธ์พัฒนา SEO ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ให้น่าใช้งาน สวยงาม และเป็นมิตรกับผู้ใช้ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือการสร้างความประทับใจแรกพบ (First Impression) ซึ่งจะช่วยสร้างแต้มต่อให้กับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมหาศาล รวมถึงการสร้างเนื้อหา (Content) ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ สินค้า หรือบริการที่มีความน่าสนใจ โดยไม่จำเป็นต้องเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรง แต่เป็นการให้รายละเอียดและบอกในสิ่งที่คุณกำลังมีหรือทำอยู่เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมให้กับกลุ่มลูกค้าที่สนใจและทำให้ลูกค้ารู้จักคุณมากขึ้น
ชูจุดขาย
เมื่อลูกค้าทราบแล้วว่าคุณมีสินค้าหรือบริการอะไร กลยุทธ์ SEO ประการต่อมาก็คือการให้ความรู้เกี่ยวกับประเภทสินค้าหรือบริการที่ขาย โดยต้องเป็นการชูจุดเด่นหรือข้อดีของสินค้าหรือบริการของคุณเพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้า (Value Proposition) และสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งว่าทำไมลูกค้าควรซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ ซึ่งอาจจะเป็นการสร้างคอนเทนต์เพื่อเปรียบเทียบสินค้าหรือบริการของคุณกับคู่แข่งในแง่มุมต่าง ๆ โดยขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่มีความท้าทายสำหรับธุรกิจหรือแบรนด์ที่เพิ่งเกิดใหม่ มีคู่แข่งเยอะ หรือมีสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าสูง
ขาย
เมื่อทำ SEO มาได้สักระยะหนึ่ง สิ่งที่คุณต้องโฟกัสต่อไปก็คือการขาย ดังนั้น แค่กลยุทธ์ SEO อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ คุณจะต้องวางแผนการทำโฆษณาใน Google Ads ซึ่งเป็นเป็นบริการของ Google ที่ให้บริการโฆษณาออนไลน์เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้าสู่เว็บไซต์ของคุณมากขึ้นและรวดเร็ว โดยจะทำให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นไปปรากฏบนหน้าแรกของหน้าผลการค้นหาทันที โดยคิดค่าบริการต่อคลิก (Pay Per Click: PPC) กล่าวคือ Google จะคิดค่าบริการก็ต่อเมื่อมีผู้ใช้คลิกโฆษณาของเว็บไซต์และเข้ามาชมเว็บไซต์ของคุณ Google Ads จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำ SEO เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อลูกค้าเริ่มรู้จักธุรกิจ สินค้า หรือบริการของคุณแล้ว การทำ Google Ads จะช่วยให้ลูกค้าเห็นเว็บไซต์ของคุณก่อนเว็บไซต์ของคู่แข่ง
กระตุ้นการมีส่วนร่วม
การวางแผน SEO ขั้นตอนสุดท้ายเป็นเรื่องของการสั่งสมชื่อเสียงของธุรกิจ สินค้า หรือบริการที่จะเป็นตัวกำหนดการวางแผน SEO ในอนาคต การกระตุ้นการมีส่วนร่วม (Engagement) ผ่านช่องทางต่าง ๆ จะช่วยให้ชื่อเสียงของคุณติดตลาด ช่วยสร้างการรับรู้ (Brand Awareness) และจดจำ โดยคุณอาจกระตุ้นหรือเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าเขียนรีวิวสินค้าหรือบริการ หรือบอกต่อในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ อาจจะเป็น Facebook, Pantip, Blog ฯลฯ โดยคุณยังสามารถเปลี่ยนชื่อแบรนด์กลายให้เป็นคีย์เวิร์ดที่ทรงพลัง เพราะยิ่งมีการพูดถึงเยอะ คุณก็จะยิ่งมีจำนวนผู้เข้าชมเยอะมากขึ้นตามไปด้วย
การวางแผนกลยุทธ์การทำ SEO คือกระบวนการที่ต้องใช้การวิเคราะห์, การวิจัย, การสร้างเนื้อหา, และการติดตามผลลัพธ์เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีการมองเห็นที่ดีขึ้นในผลการค้นหา การวางแผนอย่างมีระบบช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ SEO ช่วยให้คุณมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับการวางแผนและการดำเนินการกลยุทธ์ SEO